โรคไข้กาฬหลังแอ่น คืออะไร?
คืออะไร?
ดูคลิปแนะนำตัว
ก่อนได้เลย!
โรคไข้กาฬหลังแอ่น
(Invasive Meningococcal Disease)
เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียร้ายแรงที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ภายใน 24 ชั่วโมง1
เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Neisseria meningitidis สามารถทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
และภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด แม้โรคนี้จะพบได้ไม่บ่อย แต่มีความรุนแรงสูงและสามารถ
ส่งผลกระทบระยะยาวต่อผู้ป่วย2 ในปัจจุบัน สามารถป้องกัน/ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ
ไข้กาฬหลังแอ่น โดยการหลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย และลดการอยู่
ในสถานที่แออัด3 วัคซีนยังเป็นหนึ่งในทางเลือกการป้องกันโรคไข้กาฬหลังแอ่น4
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโรค อาการ วิธีป้องกัน และวัคซีน
กลุ่มเสี่ยง
เด็กอายุตั้งแต่
2 เดือนขึ้นไป
เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันยังพัฒนาไม่สมบูรณ์
จึงมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ7,20,*
*ทารกและเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี
ผู้ที่เตรียมตัว
ไปศึกษาต่อต่างประเทศ
โดยเฉพาะในประเทศที่มีรายงาน
การระบาดของโรคไข้กาฬหลังแอ่น7 เช่น สหรัฐอเมริกา
สหราชอาณาจักร ประเทศในทวีปยุโรป ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และจีน8
นักเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยง
ที่มีการระบาดของโรคไข้กาฬหลังแอ่น เช่น
บางประเทศในแถบตะวันออกกลางและทวีปแอฟริกา7
สาเหตุ
เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย
Neisseria meningitidis
สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายสายพันธุ์ โดยสายพันธุ์ที่เป็นสาเหตุของอาการรุนแรง
ได้แก่ A, B, C, W, X และ Y2 ซึ่งในประเทศไทยพบสายพันธุ์ B เป็นสายพันธุ์ที่พบได้บ่อยที่สุด6
ได้แก่ A, B, C, W, X และ Y2 ซึ่งในประเทศไทยพบสายพันธุ์ B เป็นสายพันธุ์ที่พบได้บ่อยที่สุด6
การติดเชื้อ
เชื้อแบคทีเรียชนิดนี้สามารถแพร่กระจายผ่านละอองฝอยจากการไอหรือจาม
รวมถึงการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ เช่น เสมหะ น้ำมูก และน้ำลาย
ประมาณ 10% ของประชากรเป็นพาหะของเชื้อโดยไม่แสดงอาการ แต่ยัง
สามารถแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้ โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นตอนปลายถึงวัยผู้ใหญ่
ตอนต้น (อายุ 15–25 ปี) ซึ่งมีอัตราการเป็นพาหะสูงกว่ากลุ่มอายุอื่นๆ และใน
บางกรณีอาจพบได้มากกว่า 25%2
ระยะฟักตัวของโรค
โรคมีระยะฟักตัวโดยเฉลี่ยประมาณ 3-4 วัน 5
ซึ่งโรคนี้สามารถลุกลามอย่างรวดเร็ว และอาจรุนแรงจนเสียชีวิตได้ภายใน 24 ชั่วโมง1
อาการ2,9,10
อาการเริ่มต้นคล้ายไข้หวัด คือ มีไข้สูง เจ็บคอ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
และสามารถก่อให้เกิด อาการที่รุนแรงได้แก่
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
อาการไข้สูง คอแข็ง อาเจียน
ปวดศีรษะรุนแรง ซึมลง หมดสติ
ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด
มีอาการไข้สูง ผื่นจ้ำเลือด มือเท้าเย็น
สามารถนำไปสู่ภาวะช็อก และอวัยวะ
ล้มเหลวได้
ในเด็กเล็ก
จะมีอาการร้องไห้ผิดปกติ ซึมลง และไม่ยอมกินอาหาร
ความรุนแรง
โรคสามารถลุกลามได้ไว
อาจเสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว1
โดยมีอัตราการเสียชีวิตที่
10-15%5
ภาวะแทรกซ้อน
1 ใน 5 ของผู้รอดชีวิตอาจเผชิญกับความพิการหรือผลกระทบต่อสุขภาพระยะยาว5
สูญเสียความสามารถ
ในการเรียนรู้และจดจำ
จากความเสียหายของ
สมอง
สูญเสียแขนหรือขา
จากการติดเชื้อรุนแรง
สูญเสียการได้ยิน10
อาการอื่นๆ เช่น โรคลมชัก11
ปัญหาทางพฤติกรรม10
การป้องกันโรค
สามารถป้องกัน/ลดความเสี่ยงการติดเชื้อไข้กาฬหลังแอ่น
หลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย และลดการอยู่ในสถานที่แออัด3
และการฉีดวัคซีนเป็นวิธีป้องกันเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง4
มีวัคซีน 2 ประเภท
1
วัคซีนไข้กาฬหลังแอ่น (Meningococcal) สายพันธุ์ B7
- พิจารณาให้วัคซีนได้ตั้งแต่อายุ 2 เดือนขึ้นไป
- วัยรุ่นและนักศึกษา พิจารณาให้วัคซีน ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ
ที่มีความเสี่ยง
2
วัคซีนไข้กาฬหลังแอ่น (Meningococcal) สายพันธุ์ A,C,W,Y7
- พิจารณาให้วัคซีนได้ตั้งแต่อายุ 12 เดือนขึ้นไป
- ผู้เดินทางไปพิธีฮัจญ์หรืออุมเราะห์ที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย
หรือไปพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค เช่น ทวีปแอฟริกา
คำแนะนำการฉีดวัคซีน7,21
ทารกและเด็กเล็ก
พิจารณาให้วัคซีนไข้กาฬหลังแอ่น สายพันธุ์ B ตั้งแต่อายุ 2 เดือน
วัยรุ่นและนักศึกษา
พิจารณาให้วัคซีนไข้กาฬหลังแอ่น สายพันธุ์ A,C,W,Y
หรือ สายพันธุ์ B ก่อนเข้าหอพัก
หรือ สายพันธุ์ B ก่อนเข้าหอพัก
นักเดินทาง
พิจารณาให้วัคซีนไข้กาฬหลังแอ่นก่อนเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง
เช่น ตะวันออกกลาง หรือแอฟริกา
เช่น ตะวันออกกลาง หรือแอฟริกา
ประเทศที่พบการเกิดไข้กาฬหลังแอ่น และแนะนำให้ฉีดวัคซีน
สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ประเทศในทวีปยุโรป ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จีน
หรือประเทศอื่นๆ ตามข้อกำหนดของสถานศึกษา และประเทศนั้น
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ
วัคซีนไข้กาฬหลังแอ่น
Q: วัคซีนปลอดภัยหรือไม่?
A: วัคซีนสามารถช่วยลดอุบัติการณ์การติดเชื้อ และได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (THFDA)
Q: ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย เมื่อรับวัคซีน?
A: ปวด บวม แดงบริเวณที่ฉีด, มีไข้, เด็กอาจงอแง หรือร้องไห้มากกว่าปกติ พิจารณาให้พาราเซตามอล
ในเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี เพื่อช่วยลดไข้
